ข่าวใหม่สำหรับผู้ขับขี่พาหนะ ไม่ต้องพกใบขับขี่ตัวจริง! เริ่มวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2562 สามารถถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์เพื่อใช้โชว์แทนได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถตรวจสอบได้จากฐานข้อมูลในระบบ ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชน
19 กันยายน พ.ศ. 2562 ไม่ต้องพกขับขี่ ถ่ายรูปแทนก็ได้
พ.ร.บ.จราจรทางบกฉบับ 12 พ.ศ. 2562 ได้มีการแก้ไขกฎหมายใหม่ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับ…
- การชำระค่าปรับ
- การตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่
- การออกใบสั่ง
- การว่าตักเตือน
โดยมีสาระสำคัญหลายประการ ยกตัวอย่างเช่นมาตรา 31/1 ผู้ขับขี่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัว พร้อมต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานเมื่อโดนขอตรวจ ซึ่งในฉบับใหม่นี้สามารถใช้ข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์และสำเนาภาพถ่ายแทนได้ โดยกฎหมายมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2562
กรณีออกใบสั่งแบบไม่พบตัวผู้ขับขี่
สามารถให้เจ้าหน้าที่ ติด ห้อย หรือแสดงใบสั่งไว้ที่รถซึ่งทำให้เจ้าของรถมองเห็นได้ง่าย หรือถ้าไม่อาจแสดงใบสั่งไว้ที่รถได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถส่งใบสั่งและหลักฐานทางไปรษณีย์ไปยังที่อยู่โดยตรง เพื่อให้มาชำระค่าปรับภายในระยะเวลาที่กำหนด
นอกจากนี้ถ้าเจ้าพนักงานเล็งเห็นว่าผู้ขับขี่นั้น กำลังตกอยู่ในสภาพไม่สบบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นกายใจ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือทรัพย์สินของทั้งตนเองหรือผู้อื่น ให้เจ้าพนักงานยึดใบขับขี่ได้ทันที หรือระงับการใช้รถเป็นการชั่วคราว และสามารถคืนใบอนุญาตขับขี่ พร้อมอนุญาตให้ขับรถต่อไปได้ เมื่อผู้ขับขี่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สามารถขับรถต่อไปได้แล้ว
การชำระเงินค่าปรับ
สามารถชำระค่าปรับได้ด้วยวิธีเหล่านี้…
- ชำระค่าปรับด้วยการส่งธนาณัติหรือส่งตั๋วแลกเงิน – สั่งจ่ายให้แก่ตำรวจแห่งชาติ
- ชำระค่าปรับด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต ผ่านธนาคาร – ชำระให้ตรงกับจำนวน
2.ชำระค่าปรับ ณ สถานีตำรวจ – ชำระให้ตรงกับจำนวน
คุณจะเลือกวิธีไหนก็ได้ที่สะดวก ต่อมาเมื่อผู้ได้รับใบสั่งชำระค่าปรับครบถ้วนตามกระบวนการณ์แล้ว ให้ถือว่าจบกระบวนการ แต่ถ้าไม่มาชำระค่าปรับตามระยะเวลากำหนด ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมา โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะลงบันทึกข้อมูลการกระทำความผิด และส่งต่อไปยังกรมการขนส่งทางบกฯ เพื่อกำหนดอายัดการชำระภาษีประจำปีแบบชั่วคราว โดยถ้าประชาชนมีความต้องการในการจะขอชำระค่าปรับกับเจ้าหน้าที่ขนส่งก็ดำเนินการทันที หากแต่จะเป็นเรื่องยุ่งยากกว่ามาก แนะนำให้จัดการตามเวลากำหนดในขั้นตอนแรกจะดีกว่า
กฎหมายใหม่เจ้าหน้าที่ต้องบันทึกคะแนนความประพฤติด้วย
เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนในระดับสูงสุด จึงมีการออกกฎหมายข้อนี้ขึ้นมา เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดคะแนน ตัดคะแนน และคืนคะแนน สำหรับหลักการดังกล่าวนี้ จะดำเนินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่มีการตั้งเป้าไว้ โดยผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับขี่ถ้าโดนตัดคะแนนความประพฤติจนหมดคะแนน ก็จะโดนสั่งพักใบอนุญาตขับขี่เป็นเวลา 90 วัน รวมทั้งต้องให้แจ้งต่อนายทะเบียนของกรมการขนส่งทางบกให้ทราบโดยเร็วที่สุด และต้องมีการบันทึกข้อมูลเป็นเวลา 2 ปี และถ้าบุคคลนั้นถูกพักใบขับขี่เกิน 3 ครั้ง ก็จะเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นไปอีก ด้วยการพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ชั่วคราวได้มากกว่า 90 วัน โดยถ้าภายในระยะเวลา 1 ปี กระทำผิดอีกโดนพักในการใช้ใบอนุญาตอีก คราวนี้ก็ให้เจ้าหน้าที่พิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่เลย ในส่วนของระยะเวลาก็ให้ดำเนินไปตามที่นายทะเบียนพิจารณา หากแต่ก็ยังมีทางแก้ไขอยู่ โดยผู้ขับขี่ที่โดนตัดคะแนนไปแล้วนั้นขอเข้ารับการอบรมจากเจ้าหน้าที่ได้เพื่อเข้ารับการอบรมใหม่ ถึงจะได้คะแนนสำคัญกลับคืนมา